วันเสาร์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2557

รูปแบบการเรียนรู้ ในระบบ Network



Mooc ย่อมาจาก Massive Open Online Course ความหมาย คือ (Course) การเรียนออนไลน์(Onilne)จากระบบที่เปิดสอนแบบฟรี(Open) และมีเพื่อนร่วมเรียนอยู่เป็นจำนวนมาก(Massive) 

              ซึ่งคำว่าจำนวนมากนั้น ไม่ได้จำกัดอยู่ที่เท่าไหร่ เพราะใครๆก็สามารถศึกษาจากที่นี่ได้ ยิ่งสมัยที่มีเทคโนโลยีทันสมัย ทำให้คนสามารถหาความรู้ได้ง่ายจากแหล่งศึกษาประเภทนี้ โดยในการสอน จะมีวิดีโอบรรยายมาสอนควบคู่กันไป ทำให้เข้าใจได้ง่าย และไม่เสียเงินซักแดงเดียว แถมยังมี แบบทดสอบ Quiz หรือ แบบฝึกหัด รวมทั้ง Assignment หรือแม้กระทั่งการเข้าไปร่วมสนทนาห้องเรียน ในรูปแบบออนไลน์ได้อีก

             ตามจริงแล้ว ก็มีสื่อการสอนออนไลน์ อยู่เยอะเหมือนกัน อย่างเช่น E-Learning ที่เป็นที่แรกๆที่มีรูปแบบการสอนนี้ ซึ่งระบบของ E-Learning นั้น จะให้นักศึกษาได้มีโอกาสเรียนรู้ผ่านระบบออนไลน์รวมทั้งสามารถใช้ประโยชน์จาก Internet มาช่วยในการเสริมความรู้ ซึ่งแนวคิดของ E-Learning นั้น เป็นแรงผลักดันทำให้เกิด MOOC ขึ้นมา โดยที่ MOOC เพิ่มความเป็นออนไลน์มากกว่า  หมายความว่า MOOC จะเน้นการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ มาช่วยในการสอนมากขึ้น โดยเฉพาะ Internet และระบบคอมพิวเตอร์

             จุดที่น่าสนใจของ MOOC อีกอย่างคือ การติดต่อสื่อสารระหว่างอาจารย์ และ นักศึกษาได้(แม้จะเป็นระบบทางกลไกก็ตาม) กล่าวได้ว่า มีการออกแบบให้อาจารย์สามาถเก็บข้อมูลการเรียนของนักศึกษา
ได้ง่ายมากยิ่งขึ้น เช่น อาจารย์สามารถเข้ามาตรวจดูสถิติการดูวิดีโอ ที่Lecture อันไหนมากเป็นพิเศษรึเปล่า หรือ นักเรียนทำแบบฝึกหัดอันใดมากกว่า รวมทั้งดูว่านักศึกษามีความถนัดด้านไหนเป็นพิเศษบ้าง
และยังสามารถวิเคราะห์แก้โจทย์ที่นักศึกษาไม่เข้าใจให้หายข้องใจได้อีกต่างหาก การที่อาจารย์สามารถดูสถิติพวกนี้ได้ จะเป็นการสร้างปฏิสัมพันธ์อันดีกับนักศึกษาได้ แม้จะอยู่ไกลกันก็ตาม ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่ดีเพราะเป็นกันการแก้ไขข้อด้อยของการเรียนออนไลน์ที่ปกติ เป็นการเรียนเบบรับทางเดียวเท่านั้น โดยที่นักศึกษาจะไม่สามารถโต้ตอบหรือ รับปฏิสัมพันธ์ใดๆได้เลย

              อีกเหตุผลที่ MOOC นั้น เป็นที่รู้จักมากขุ้น นั่นก็เพราะว่ามหาวิทยาลัยชั้นนำของสหรัฐอมเริกาได้นำไปใช้เป็นสื่อประกอบการสอนแบบออนไลน์ เช่น Harvard University, MIT แบะ University of California Berkeley ซึ่งแรกเริ่มก็ทำกันทีละมหาวิทยาลัย แต่ต่อมาก็ร่วมกันพัฒนาด้วยกันหลายๆมหาวิทยาลัย โดยได้มีการจัดทำ Platform ให้มหาวิทยาลัยต่างๆ สามารถนำรายวิชาที่สอน สามารถใส่เข้าไปเพื่อให้นักศึกษา ได้มีโอกาสในด้านการเรียนหลักสูตรนั้นๆมากขึ้น

Ex.(ตัวอย่างคลิป)

University of Virginia

Grow to Greatness: Smart Growth for Private Businesses, Part I

This course focuses on the common growth challenges faced by existing private businesses when they attempt to grow substantially.


Design: Creation of Artifacts in Society

Combine fundamental concepts with hands-on design challenges to become a better designer.

What is MOOC ?




Credit: https://www.coursera.org/, www.youtube.com

และท้ายที่สุดนี้  อนาคตเราอาจได้เปลี่ยนรูปแบบการเรียนการสอนใหม่ เพื่อให้เข้ากับยุคสมัยที่รุ่งเรืองขนาดนี้ก็เป็นได้

แหล่งที่มา
 http://www.dailynews.co.th/Content/IT/184597/MOOC+%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%A5%E0%B8%99%E0%B9%8C%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%A8%E0%B8%95%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A9%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88+21+-+%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B9%84%E0%B8%AD%E0%B8%97%E0%B8%B5+%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B9%82%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%A2%E0%B8%B5

วันเสาร์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2557

การเรียนรู้ในศตวรรษที่21

ปัจจัยสนับสนุนการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21

องค์ประกอบที่สำคัญและจำเป็นเพื่อในการเรียนรู้ของนักเรียนทักษะในศตวรรษที่ 21 คือ มาตรฐานศตวรรษที่ 21 การประเมินผลหลักสูตรการเรียนการสอนการพัฒนาอาชีพและสภาพแวดล้อมการเรียนรู้จะต้องสอดคล้องกับระบบสนับสนุนการผลิตที่ก่อให้เกิดผลลัพธ์ในศตวรรษที่ 21 สำหรับนักเรียนในปัจจุบัน

มาตรฐานศตวรรษที่ 21
-  มุ่งเน้นทักษะในศตวรรษที่ 21 นักเรียนมีความรู้ในเนื้อหาและความเชี่ยวชาญ
-  สร้างความเข้าใจระหว่างวิชาหลัก เช่นเดียวกับรูปแบบสหวิทยาการศตวรรษที่ 21
-  เน้นความเข้าใจอย่างลึกซึ้งมากกว่าความรู้แบบผิวเผิน
-  การของมีส่วนร่วมของนักเรียนกับ ข้อมูลและ เครื่องมือในโลกแห่งความเป็นจริงและพวกเขาจะพบผู้
เชียวชาญในวิทยาลัยหรือในที่ทำงานและ ชีวิตนักเรียนจะเรียนรู้ได้ดีที่สุดเมื่อทำงานอย่างแข็งขัน การแก้ปัญหาที่มีความหมาย
-  การมีมาตรการหลายๆรูปแบบของการเรียนรู้

​                          การประเมินด้านทักษะในศตวรรษที่ 21
-  รองรับความสมดุลของการประเมินรวมทั้งมีคุณภาพสูง การทดสอบมาตรฐานที่มีคุณภาพสูงพร้อมกับการประเมินผลในชั้นเรียนที่มีประสิทธิภาพ
-  เน้นข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ในการปฏิบัติงานของนักเรียนที่ถูกฝังลงในการเรียนรู้ในชีวิตประจำวัน
-  การประเมินการใช้เทคโนโลยีให้มีความสมดุล ความชำนาญนักเรียนซึ่งเป็นการวัดทักษะในศตวรรษที่ 21
-  ช่วยให้การพัฒนาคุณภาพนักเรียนนักศึกษาที่แสดงให้เห็นการเรียนรู้ทักษะในศตวรรษที่ 21 เพื่อการศึกษาและการทำงานในอนาคต
-  ช่วยให้มาตรการการประเมินประสิทธิภาพระบบการศึกษาในระดับที่สูงประเมินถึงสมรรถนะของนักเรียนด้านทักษะในศตวรรษที่ 21

                                หลักสูตร และการสอนในศตวรรษที่ 21
-  สอนทักษะในศตวรรษที่ 21 ซึ่งแยกกัน ในบริบทของวิชาหลักและ รูปแบบสหวิทยาการในศตวรรษที่  21
-  มุ่งเน้นไปที่การให้โอกาสสำหรับการใช้ทักษะในศตวรรษที่ 21 ในเนื้อหาและวิธีการตามความสามารถในการเรียนรู้
-  ช่วยให้วิธีการเรียนรู้นวัตกรรมที่บูรณาการการใช้เทคโนโลยีสนับสนุนแนวทางเพิ่มเติมในการใช้ปัญหาเป็นฐาน  และทักษะการคิดขั้นสูง
-  สนับสนุนให้รวมทรัพยากรของชุมชน ภูมิปัญญาชาวบ้าน แหล่งเรียนรู้นอกห้องเรียน

                           


                              สภาพแวดล้อมการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21
-  สร้างการเรียนรู้วิธีปฏิบัติที่สนับสนุนความต้องการของมนุษย์และสภาพแวดล้อมทางกายภาพที่จะสนับสนุนการเรียนการสอนและการเรียนรู้ด้วยทักษะในศตวรรษที่ 21
-  สนับสนุนการเรียนรู้ชุมชนมืออาชีพที่ช่วยให้การศึกษาเพื่อการทำงานร่วมกันแบ่งปันแนวทางปฏิบัติที่ดีและบูรณาการทักษะในศตวรรษที่ 21 ในการปฏิบัติในชั้นเรียน
-  ช่วยให้นักเรียนได้เรียนรู้ในงานที่เกี่ยวข้องในโลกศตวรรษที่ 21 แวดล้อมจริง (เช่น ปฏิบัติจริงหรือผ่านการทำงานที่ใช้ตามโครงการหรืออื่น ๆ )
-  เรียนรู้การใช้เครื่องมือเทคโนโลยีและทรัพยากรอย่างมีคุณภาพ  รู้จักการทำงานสำหรับการเรียนรู้เป็นกลุ่มทีมและรายบุคคล
-  สนับสนุนการติดต่อกับชุมชนและการมีส่วนระหว่างต่างชาติในการเรียนรู้โดยตรงและออนไลน์
  การเตรียมความพร้อมให้นักเรียนในศตวรรษที่ 21 อาศัยการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยการมีวิสัยทัศน์ พันธกิจและเป้าหมายที่ชัดเจน  ผู้เรียนจะต้องมีความรู้ที่จำเป็นในการใช้ชีวิตและทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ มีความรู้และทักษะเพื่อให้สามารถการใช้ชีวิต การทำงาน ดำรงชีพอยู่ได้กับภาวะเศรษฐกิจในสังคมโลกปัจจุบัน

Credit:http://lripsm.wix.com/21st#!about_us/cjg9

                              
                        









Internet & Search Engine

Internet

 เครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ ที่มีการเชื่อมต่อระหว่างเครือข่ายหลาย ๆ เครือข่ายทั่วโลก โดยใช้ภาษาที่ใช้สื่อสารกันระหว่างคอมพิวเตอร์ที่เรียกว่า โพรโทคอล (protocol) ผู้ใช้เครือข่ายนี้สามารถสื่อสารถึงกันได้ในหลาย ๆ ทาง อาทิ อีเมล เว็บบอร์ด และสามารถสืบค้นข้อมูลและข่าวสารต่าง ๆ รวมทั้งคัดลอกแฟ้มข้อมูลและโปรแกรมมาใช้ได้

1.ประโยชน์ของ Intenet 

1.1สามารถติดต่อสื่อสารกับบุคคลอื่นทั่วโลก

1.2สามารถค้นหาข้อมูลต่างๆได้เสมือนกับเราไปนั่งอยู่ที่ห้องสมุดขนาดใหญ่ได้ข้อมูลมากมายจากทั่วทุกมุมโลก

1.3เปรียบเสมือนเวที่ให้เข้าไปแสดงความคิดเห็นได้ภายในห้องสนทนา(chat  room) และกระดานข่าว(Web  room)

เป็นการเปิดโลกกว้างและวิสัยทัศน์ในเรื่องที่น่าสนใจ

1.4สามารถติดตามเคลื่อนไหวจากข่าวสารทั่วโลกอย่างรวดเร็ว

1.5สามารถเปิดการค้าได้ด้วยตัวเอง  โดยไม่ต้องหาที่จัดตั้งร้านหรือพนักงานบริการ  แต่สามารถทำการค้าได้ด้วยตัวเองคนเดียว

1.6สามารถซื้อสินค้า  โดยไม่ต้องเดินทางไปยังร้านค้า  ซื้อผ่านทางเว็บไซต์ที่ให้บริการ  การชำระเงินก็สะดวก เช่น  ชำระผ่าน

บัตรเครดิต การหักเงินผ่านบัญชีธนาคาร

1.7สามารถรับส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์(E-mail)  เป็นการส่งจดหมายที่ไม่ต้องเสียค่าบริการและรับส่งจดหมายได้ภายในและ

ภายนอกประเทศ  นอกจากจดหมายที่เป็นข้อความแล้ว  ยังส่งบัตรอวยพรในเทศการต่างๆได้อีก

1.8สามารถอ่านนิตยสาร  หนังสือพิมพ์  บทความ  และเรื่องราวต่างๆได้ฟรีเหมือนกับเราซื้อหนังสือฉบับนั้นมาอ่านเอง

1.9สามารถติดประกาศข้อความต่างๆที่ต้องการประกาศให้ผู้อื่นทราบได้  เช่น  ประกาศขายบ้าน  ประกาศสมัครงาน  ประกาศขอ

ความช่วยเหลือ

1.10มีของฟรีอีกมากมายที่สามารถใช้บริการได้จากอินเทอร์เน็ต  เช่น  ภาพ  เพลง  โปรแกรมคอมพิวเตอร์  ดูหนัง  เกม

Credit: https://www.l3nr.org/posts/460787

Search Engine

Search Engine มี3ประเภท โดยมีหลักการทำงานที่ต่างกัน และการจัดอันดับการค้นหาข้อมูลก็ต่างกันด้วย

เพราะมีลักษณะการทำงานที่ต่างกันนี่เอง ทำให้โดยทั่วๆ ไปแล้วจะมีการแบ่งออกเป็นหลายๆประเภท

ด้วยกัน แต่ที่สรุปได้หลักๆแล้ว มี3ประเภทด้วยกัน ดังนี้

ประเภทที่1 Crawler Based Search Engine

Crawler Based Search Engine คือ เครื่องมือ การค้นหาอินเตอร์เน็ตแบบอาศัยการบันทึกข้อมูล และจัด

เก็บข้อมูลเป็นหลัก ซึ่งจะเป็นจำพวกSearch Engine ที่ได้รับความนิยมสูงสุด เนื่องจากมันให้ผลการค้นหา

แบบที่แม่นยำตรงตามที่ต้องการที่สุด และการประมวลผลค้นหานั้น สามารถทำได้อย่างรวดเร็ว จึงทำให้

มีบทบาทในการค้นหาข้อมูลมากที่สุดในปัจจุบัน

มีองค์ประกอบหลัก2ส่วนด้วยกัน คือ

1.ฐานข้อมูลโดยส่วนใหญ่แล้ว Crawler Based Search Engine เหล่านี้ จะมีฐานข้อมูลเป็นของตัวเอง ที่มี

ระบบการประมวลผล และการจัดอันดับที่เป็นเอกลักษ์ณเฉพาะอย่างมาก

2.ซอฟแวร์ คือ เครื่องมือหลักที่สำคัญที่สุดต่อSearch Engineอย่างมาก เพราะต้องอาศัยโปรแกรมเล็กๆ

ทำหน้าที่ในการตรวจหา และทำการจัดเก็บข้อมูล หน้าเพจ หรือเว็บไซต์ต่างๆ ในรูปแบบของการทำ

สำเนาข้อมูล ให้เหมือนกับต้นฉบับทุกอย่าง ซึ่งเรามักจะรู้จักในนาม Spider หรือ Web Crawler หรือ

Search Engine Robot.

 ตัวอย่าง Crawler Based ชื่อดังที่รู้จักกันทั่วโลก http://www.google.com

ประเภทที่2 Web Directory หรือ Blog Directory

Web Directory หรือ Blog Directory คือ สารบัญเว็บไซต์ ที่ให้คุณสามารถค้นหาข่าวสารข้อมูล ด้วยหมวด

หมู่ข่าวสารที่เกี่ยวข้องกัน ในปริมาณที่มากๆ (ลักษณะคล้ายกับสมุดหน้าเหลือง) ซึ่งจะมีการ สร้างดรรชนี

มีการระบุหมวดหมู่ ไว้อย่างชัดเจน ซึ่งช่วยให้การค้นหาข้อมูลต่างๆ ตามหมวดหมู่นั้นๆ ได้รับการเปรียบ

เทียบอ้างอิง เพื่อหาข้อเท็จจริงได้ ในขณะที่เราค้นหาข้อมูล เพราะมีWebsiteมากมาย หรือ Blog ที่มีเนื้อ

หาข้อมูลคล้ายๆกัน ในหมวดหมู่นั้นๆ ซึ่งทำให้เรา สามารถเลือกข้อมูลที่ถูกต้องและตรงตามความ

ต้องการได้อย่างง่ายดาย ซึ่งจะยกตัวอย่าง ดังนี้

ODP Web Directory ชื่อดังของโลก ที่มี Search Engine มกามายใช้เป็นฐานข้อมูลDirectory

1.ODP หรือ Dmoz เป็นเว็บ Directory ที่ใหญ่ที่สุดในโลก Search Engine หลายๆแห่ง ก็ใช้ข้อมูลในที่แห่งนี้

เกือบทั้งสิ้น เช่น Google,AOL,Yahoo,Netscape และอื่นๆอีกมากมาย ODP มีกา่รบันทึกข้อมูล

ประมาณ80ภาษาทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยด้วย

(URL :http://www.dmoz.org)

2.สารบัญเว็บไทย sanook ก็เป็น Web Directory เหมือนกัน และเป็นที่รู้จักมากที่สุดในไทย

(URL :http://webindex.sanook.com)

3.Blog Directory อย่าง Blog Flux Directory ที่มีการเก็บข้อมูลเกี่ยวกับบล๊อกมากมายตามหมวดหมู่ต่างๆ

หรือBlog Directoryอื่นๆ ที่สามารถหาได้ จาก Make Manyแห่งนี้

ประเภทที่3 Meta Search Engine

Meta Search Engine คือ Search Engine ที่ใช้หลักการในการค้นหาโดย อาศัย Meta Tag ในภาษาHTML

ซึ่งมีการประกาศชุดคำสั่งต่างๆเป็นรูปแบบของ Text Editor ด้วยภาษา HTML นั่นเอง เช่น ชื่อผู้พัฒนา

คำค้นหา เจ้าของเว็บไซต์ หรือ บล๊อก หรือ คำอธิบายเว็บ หรือ บล๊อคอย่างย่อ

Meta Search Engine นั้น มักประมวลผลการค้นหาได้ไม่แม่นยำอย่างที่คิด นั่นเป็นเพราะบางครั้งผู้ให้

บริการ หรือ ผู้ออกแบบเว็บไซต์ สามารถใส่อะไรเข้าไปก็ได้มากมาย เพื่อให้เกิดคำค้นหาและพบเว็บ

หรือ บล๊อคของตัวเอง และอีกประกสรหนึ่ง ก็คือ มีการอาศัยSearch Engine Index Server หลายๆ แห่ง

มาประมวลผลรวมกันจึงทำให้การผลค้นหาข้อมูลต่างๆ ไม่ตรงตามที่ต้องการเท่าที่ควร

Credit: http://urlsiriporn.blogspot.com/2013/02/search-engine-search-engine-search.html